คะน้า
เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพ เป็นอาหารจากพืชที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดชนิดหนึ่ง เป็นผักชนิดหนึ่งที่เต็มไปด้วยสารประกอบที่เป็นประโยชน์ทุกประเภท ซึ่งบางชนิดมีคุณสมบัติเป็นยาที่มีประสิทธิภาพ ประโยชน์ต่อสุขภาพ 5 ประการของคะ น้าที่วิทยาศาสตร์สนับสนุน
คะน้า กับ 5 ประโยชน์ต่อสุขภาพ
1.เป็นอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารมากที่สุดในโลก
เป็นผักที่นิยมและเป็นสมาชิกของตระกูลกะหล่ำปลี เป็นผักตระกูลกะหล่ำ เช่น กะหล่ำปลี บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กระหล่ำปลี และกะหล่ำดาว คะ น้ามีหลายประเภท ใบสามารถเป็นสีเขียวหรือสีม่วงและมีรูปร่างเรียบหรือเป็นลอน ผักชนิดที่พบมากที่สุดเรียกว่า คะ น้าหยิก หรือ คะ น้าสกอต ซึ่งมีใบสีเขียวและหยักศก และมีลำต้นแข็งเป็นเส้นๆ
2. เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ เช่น เควอซิตินและกระชาย
คะ น้าก็เหมือนกับผักใบเขียวอื่นๆ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ซึ่งรวมถึงเบต้าแคโรทีนและวิตามินซี ตลอดจนฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอลต่างๆ สารต้านอนุมูลอิสระคือสารที่ช่วยต่อต้านการทำลายจากอนุมูลอิสระในร่างกาย เชื่อกันว่าความเสียหายที่เกิดจากออกซิเดชันเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของความชราและโรคต่างๆ มากมาย รวมถึงมะเร็ง แต่สารจำนวนมากที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระก็มีหน้าที่สำคัญอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งรวมถึง flavonoids quercetin และ kaempferol
ซึ่งพบได้ในปริมาณที่ค่อนข้างมากในผักคะ น้า สารเหล่านี้ได้รับการศึกษาอย่างละเอียดในหลอดทดลองและในสัตว์ทดลอง มีฤทธิ์ป้องกันหัวใจ ลดความดันโลหิต ต้านการอักเสบ ต้านไวรัส ต้านอาการซึมเศร้า และต้านมะเร็ง เป็นต้น
3. เป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีเยี่ยม
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายน้ำได้ที่สำคัญซึ่งทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในเซลล์ของร่างกาย ตัวอย่างเช่น มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างมากที่สุดในร่างกาย คะ น้ามีวิตามินซีสูงกว่าผักอื่นๆ มาก โดยมีปริมาณมากกว่าผักโขมประมาณ 4.5 เท่า ความจริงก็คือ คะ น้าเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผักคะ น้าดิบหนึ่งถ้วยมีวิตามินซีมากกว่าส้มทั้งผล

4. ช่วยลดคอเลสเตอรอลซึ่งอาจลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
คอเลสเตอรอลมีหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย เช่น ใช้ทำกรดน้ำดี ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายย่อยไขมัน ตับจะเปลี่ยนโคเลสเตอรอลให้เป็นกรดน้ำดี ซึ่งจะถูกปล่อยเข้าสู่ระบบย่อยอาหารทุกครั้งที่คุณทานอาหารที่มีไขมัน เมื่อไขมันทั้งหมดถูกดูดซึมและกรดน้ำดีได้ทำหน้าที่ตามจุดประสงค์ พวกมันจะถูกดูดซึมกลับเข้าสู่กระแสเลือดและนำกลับมาใช้อีกครั้ง สารที่เรียกว่า bile acid sequestrants สามารถจับกรดน้ำดีในระบบย่อยอาหาร และป้องกันไม่ให้ถูกดูดซึมกลับเข้าไปอีก ซึ่งจะช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกายทั้งหมด
ผักที่ชนิดนี้มีสารกักเก็บกรดน้ำดีซึ่งสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเมื่อเวลาผ่านไป การศึกษาหนึ่งพบว่าการดื่มน้ำคะ น้าทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ช่วยเพิ่ม HDL (คอเลสเตอรอลที่ “ดี”) ได้ 27% และลดระดับ LDL ลง 10% ในขณะที่ยังช่วยเพิ่มสถานะสารต้านอนุมูลอิสระ
จากการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าผักที่ชนิดนี้นึ่งช่วยเพิ่มผลผูกพันกรดน้ำดี คะ น้านึ่งมีประสิทธิภาพ 43% เท่ากับ cholestyramine ซึ่งเป็นยาลดคอเลสเตอรอลที่ทำงานในลักษณะเดียวกัน
5. เป็นแหล่งวิตามินเคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก วิตามินเคเป็นสารอาหารที่สำคัญ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการแข็งตัวของเลือด และทำได้โดย “กระตุ้น” โปรตีนบางชนิดและให้ความสามารถในการจับแคลเซียม ยาต้านการแข็งตัวของเลือด Warfarin ที่รู้จักกันดีนั้นทำงานโดยการปิดกั้นการทำงานของวิตามินนี้
ผักที่ชนิดนี้เป็นแหล่งวิตามินเคที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในถ้วยดิบหนึ่งถ้วยมีปริมาณวิตามินเคเกือบ 7 เท่าของปริมาณที่แนะนำต่อวัน รูปแบบของวิตามินเคในคะ น้าคือ K1 ซึ่งแตกต่างจากวิตามิน K2 K2 พบได้ในอาหารหมักดองและผลิตภัณฑ์จากสัตว์บางชนิด ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคกระดูกพรุน
นี้เป็นผักอีกชนิดที่มีประโยชน์มากมาย ฝากเพื่อนๆติดตามกันด้วยนะคะ วันนี้แอดมินขอตัวไปก่อนนะคะ สวัสดีคะ..
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ผักชี
o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o
เครดิต parcsdelagdal.com
o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o o